หอธรรมพระบารมี “วัดผาณิตาราม” น้อยด้วยรูปลักษณ์มากด้วยเรื่องราว
หอธรรมพระบารมี วัดผาณิตาราม จ.ฉะเชิงเทรา ที่ที่ธรรมะ และศิลปะร่วมสมัยมาบรรจบกันอย่างลงตัว ถ้ามองเผิน ๆ จากภายนอก ใครจะคิดว่าเมื่อผ่านประตูเข้ามาพบกับวัดที่มีหน้าตาการออกแบบเรียบ ๆ ไม่มีแม้แต่จิตรกรรมฝาผนังที่เราคุ้นเคยเช่นนี้จะมีแกลเลอรีที่มีงานศิลปะร่วมสมัยซ่อนอยู่

จุดเริ่มต้นของ “หอธรรมพระบารมี” อาคารแกลเลอรีงานศิลป์ที่ดูทันสมัย สไตล์มินิมัล มาจากพระอาจารย์สุรศักดิ์ จรณธัมโม ซึ่งก่อนบวชเรียน เคยทำงานเกี่ยวกับการจัด Event และคลุกคลีกับงานศิลปะ
และเมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต พระอาจารย์สุรศักดิ์ได้เชิญศิลปินน้อยใหญ่รวมตัวกันจัดแสดงงานศิลปะเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ผสานกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
การได้มาเดินชมศิลปะภายในวัดแห่งนี้ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ทุกก้าวที่เดินชมงานศิลปะที่นี่เหมือนการได้พบกับธรรมะริมทางที่รอให้เราตีความ

ภายในหอธรรมพระบารมีแบ่งเป็นส่วนจัดแสดงนิทรรศการถาวรและส่วนนิทรรศการหมุนเวียน ผ่านส่วนต้อนรับเข้ามาภายในจะพบห้องกว้างที่สามารถชมพระบรมสาทิสลักษณ์และพระบรมรูปปั้นของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้โดยรอบ


โบกพระหัตถ์ ศิลปิน : ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ปี : 2017 เทคนิค : Bronze
ประติมากรรม 3 มิติ ธรรมราชา พระผู้มีความเพียรอันบริสุทธิ์ โดยศิลปินแห่งชาติ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ปี : 2017 เทคนิค : Bronze

ชั้น 2 เป็นห้องจัดแสดงพระบรมสาทิสลักษณ์และของใช้ส่วนพระองค์รวบรวมจำลองไว้ในตู้กระจกที่ออกแบบเป็นเลขเก้า


เดินลงอีกฝั่งมายังห้องจัดแสดงอีกห้องผลงานของคุณยุทธนาจากน้ำกาแฟอาราบิก้ายังคงจัดแสดงในห้องนี้

ดูกาย ดูจิต ผลงานของศิลปิน ชัยโย โล่ห์อมรปักษินจัดแสดงหน้าห้อง
ออกจากส่วนนิทรรศการถาวรแล้วไปยังชั้น 1 ของอาคารที่เชื่อมต่อกันเพื่อชมนิทรรศการหมุนเวียน

นิทรรศการที่ชมเป็นการแสดงผลงานศิลปะการออกแบบเครื่องแต่งกายของคุณประภากาศ อังสุสิงห์ เจ้าของและ Artist แบรนด์ Hook’s ที่ผ่านเวที Thailand Elle Fashionweek 2018 มาแล้ว โดยคุณประภากาศนำเสนอผลงานผ่านโครงสร้างประติมากรรม สีสันและผลงานบนเนื้อผ้าที่ผสมผสมผสานได้หลากหลายจากทั้งวัสดุและเทคนิคการผลิตเพื่อสื่อสารสะท้อนให้ผู้ชมย้อนกลับมาดูตนเองถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในชีวิตและจิตใจและของบุคคลแวดล้อมในชีวิตประจำวัน



หอธรรมพระบารมี “วัดผาณิตาราม” น้อยด้วยรูปลักษณ์มากด้วยเรื่องราว

ชมนิทรรศการ “เปลือก” ต่อที่ชั้นสอง ผลงาน “สังขาร” จัดแสดงบนพื้น ด้วยเทคนิค ปูนปลาสเตอร์


อาคารแสดงนิทรรศการชั้นสองนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นที่พักรองรับผู้ปฏิบัติธรรม อาคารสีขาวที่เน้นแสงสว่างธรรมชาติและช่องระบายลมโดยส่วนที่ว่างภายนอกระหว่างอาคารตกแต่งด้วยไม้กระถาง ไม้แขวน สวนหย่อมและงานประติมากรรมสวยๆ นอกจากนั้นการวางแปลนห้องน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ส่วนกลางเชื่อมต่อห้องยังมีผลงานศิลปะทั้งประติมากรรมและจิตรกรรมตกแต่งทำให้รู้สึกว่าอาคารแห่งนี้สว่าง สะอาดตาด้วยสีหลักคือสีขาวและสวยงามในทุกมุมมองค่ะ

ขึ้นบันไดไปชั้นสามเป็นห้องนิทรรศการสีดำอีกหนึ่งห้องแสดงผลงานของศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ปี พ.ศ. 2542 อินสนธิ์ วงค์สาม
การได้มาสถานที่สวย สงบและสดชื่น ได้ชมงานศิลปะที่แฝงข้อคิดดีๆ ทำให้การพักผ่อนได้ประโยชน์กลับไป หากมีโอกาสจะติดตามชมนิทรรศการอื่นๆต่อค่ะ
ชุมชนการซื้อขายและแบ่งปันสินค้า Commupun
กดติดตามแฟนเพจได้ที่ Facebook : CommuPun คอมมูปัน